
หินบะซอลต์
บะซอลต์ (อังกฤษ: basalt)
เป็นหินอัคนีพุที่พบได้โดยทั่วไป มักพบมีสีเทาถึงสีดำ
มีเนื้อละเอียดเนื่องจากเกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลก
อาจพบมีเนื้อสองขนาดที่มีผลึกขนาดโตกว่าอยู่ในพื้นเนื้อละเอียด
หรือมีเนื้อเป็นโพรงข่าย หรือมีเนื้อเป็นตะกรันภูเขาไฟ (สคอเรีย)
เนื้อหินบะซอลต์สดๆจะมีสีดำหรือสีเทา
ปรกติหินบะซอลต์จะถูกนำไปใช้เป็นวัสดุก่อสร้างถนน
เทพื้นรองหมอนและรางรถไฟ และทำเป็นแผ่นปูพื้นหรือผนัง
และยังใช้เป็นส่วนผสมที่สำคัญในการผลิตแอสฟัลต์
ในโลกของเรานี้หินหนืด (แมกมา) เป็นวัตถุต้นกำเนิดของหินบะซอลต์
เกิดจากการพองตัวของวัตถุหลอมในชั้นเนื้อโลก
หินบะซอลต์ก็เกิดได้บนดวงจันทร์ของโลกเรา รวมถึงบนดาวอังคาร ดาวศุกร์
และแม้แต่ดาวเคราะห์น้อย 4 เวสต้า
หินต้นกำเนิดเพื่อการกึ่งหลอมละลายอาจจะเป็นทั้งเพริโดไทต์และไพรอกซีไนต์
(เช่น Sobolev et al., 2007)
เปลือกโลกส่วนของมหาสมุทรโดยส่วนใหญ่แล้วจะประกอบไปด้วยหินบะซอลต์ที่เกิด
จากการปะทุขึ้นมาจากชั้นเนื้อโลกที่อยู่ด้านล่างตรงบริเวณเทือกเขากลางสมุทร
คำว่าบะซอลต์บางครั้งก็ถูกใช้เรียกหินอัคนีแทรกซอนในระดับตื้นๆที่มีองค์ประกอบเป็นแบบหินบะซอลต์ แต่หินที่มีองค์ประกอบดังกล่าวที่มีเนื้อหยาบโดยทั่วไปจะเรียกว่าโดเลอไรต์ (อาจเรียกเป็นไดอะเบสหรือแกบโบร)
ประเภท
- หินบะซอลต์โธลีไอต์เป็นหินบะซอลต์ที่มีซิลิก้าและโซเดียมต่ำ หินบะซอลต์ที่จัดอยู่ในประเภทนี้เป็นหินบะซอลต์ทั้งหมดในพื้นมหาสมุทร เกาะขนาดใหญ่ในมหาสมุทรทั้งหมด และหินบะซอลต์ที่ไหลท่วมบนพื้นทวีปอย่างเช่นกลุ่มหินบะซอลต์แม่น้ำ โคลัมเบีย
- MORB (หินบะซอลต์ที่เทือกเขากลางสมุทร) เป็นหินบะซอลต์ที่มีองค์ประกอบของธาตุอินคอมแพตทิเบิลในปริมาณต่ำ หินบะซอลต์ที่เทือกเขากลางสมุทรนี้โดยทั่วไปจะปะทุขึ้นมาที่เทือกเขา กลางมหาสมุทรเท่านั้น หินบะซอลต์ที่เทือกเขากลางสมุทรนี้จำแนกแบ่งย่อยได้อีกหลากหลายกลุ่มเช่น NMORB และ EMORB (มีธาตุอินคอมแพตทิเบิลค่อนข้างมากกว่า)
- หินบะซอลต์ที่มีอะลูมินาสูง อาจอยู่ในสภาพที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าสภาพการอิ่มตัวของซิลิก้า ค่าปริมาณอะลูมินาจะสูงกว่าร้อยละ 17 (Al2O3) และมีองค์ประกอบอยู่ระหว่างหินบะซอลต์โธลีไอต์และหินบะซอลต์อัลคาไล การมีองค์ประกอบของอะลูมินาสูงนี้เนื่องด้วยหินนี้ไม่มีผลึกของแร่แพลจิโอ เคลส
- หินบะซอลต์อัลคาไล เป็นหินที่มีองค์ประกอบของซิลิก้าต่ำแต่มีโซเดียมสูง เป็นหินที่เกิดขึ้นในสภาพที่ต่ำกว่าสภาพอิ่มตัวด้วยซิลิก้าที่อาจประกอบด้วย แร่เฟลด์สปาร์ อัลคาไลเฟลด์สปาร์ และโฟลโกไพต์
- โบนิไนต์ เป็นหินบะซอลต์หรือแอนดีไซต์ที่มีองค์ประกอบของแมกนีเซียมสูงที่โดยทั่วไป แล้วจะปะทุขึ้นมาบริเวณแอ่งหลังหมู่เกาะรูปโค้ง มีลักษณะที่เด่นชัดด้วยมีองค์ประกอบของไททาเนียมต่ำและมีองค์ประกอบของธาตุ ส่วนน้อย (trace elements)
ศิลาวิทยา
องค์ประกอบทางแร่ของหินบะซอลต์โดดเด่นไปด้วยแร่เฟลด์สปาร์พวกแคลซิกแพลจิโอเคลส และอาจมีแร่โอลิวีนเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย มีแร่อื่นๆในปริมาณรองลงมาได้แก่เหล็กออกไซด์และเหล็ก-ไททาเนียมออกไซด์อย่างเช่นแมกนีไทต์ อัลโวสปิเนล และอิลเมไนต์
การมีองค์ประกอบของแร่ออกไซด์ดังกล่าวทำให้หินบะซอลต์สามารถมีคุณสมบัติเป็น
แม่เหล็กได้เมื่อเย็นตัวลง
และทำให้มีการศึกษาสนามแม่เหล็กโลกโบราณกันอย่างกว้างขวางจากหินบะซอลต์
ในหินบะซอลต์โธลีไอต์จะพบผลึกของแร่ไพรอกซีน ออไจต์
และออร์โธไพรอกซีนหรือพิจิโอไนต์และแพลจิโอเคลสแคลเซียมสูงได้
อาจพบผลึกของแร่โอลิวีนได้ด้วยซึ่งถ้ามีจะเกิดแร่พิจิโอไนต์บริเวณขอบโดยรอบ
ของผลึกด้วย
พื้นเนื้อของหินมีแร่ควอตซ์หรือทริดีไมต์หรือคริสโตบาไลต์แทรกอยู่ในเนื้อ
ของหิน
หินโธลีไอต์โอลิวีนมีแร่ออไจต์และออร์โธไพรอกซีนหรือพิจิโอไนต์กับโอลิวีนใน
ปริมาณมากแต่ที่ขอบของแร่โอลิวีนอาจมีแร่ไพรอกซีนและดูเหมือนจะไม่ปรากฏใน
ส่วนของพื้นเนื้อของหิน
โดยทั่วไปหินบะซอลต์อัลคาไลจะมีองค์ประกอบของแร่ที่ไม่มีแร่ออร์โธไพรอก
ซีนแต่จะมีแร่โอลิวีน
ผลึกแร่เฟลด์สปาร์จะมีองค์ประกอบเป็นพวกแลบราโดไลต์จนถึงแอนดีซีน
แร่อย่างอัลคาไลเฟลด์สปาร์ ลิวไซต์ เนฟีลีน โซดาไลต์ ไมก้าโฟโกไพต์
และอะพาไทต์อาจพบได้ในส่วนของพื้นเนื้อหิน
บะซอลต์มีจุดลิควิดัสและจุดโซลิดัสที่อุณหภูมิสูง
โดยค่าอุณหภูมิที่พื้นผิวโลกอาจสูงเกือบ 1200 องศาเซลเซียสหรือสูงกว่า
สำหรับจุดลิควิดัส และสูงเกือบถึง 1000 องศาเซลเซียสสำหรับจุดโซลิดัส
ค่าอุณหภูมิเหล่านี้ถือว่าสูงกว่าของหินอัคนีอื่นๆทั่วไป
ส่วนใหญ่แล้วหินโธลีไอต์จะเกิดขึ้นที่ความลึกประมาณ 50-100
กิโลเมตรอยู่ในชั้นเนื้อโลก
หินบะซอลต์อัลคาไลจำนวนมากอาจเกิดขึ้นที่ความลึกมากกว่านี้คือระหว่าง
150-200 กิโลเมตรทีเดียว
ขณะที่แหล่งกำเนิดของหินบะซอลต์อะลูมินาสูงยังมีการถกเถียงกันอยู่
มีการวิเคราะห์ตีความกันว่ามันอาจเกิดจากการหลอมปฐมภูมิมาจากหินบะซอลต์ชนิด
อื่น (เช่น Ozerov, 2000)
ธรณีเคมี
หินบะซอลต์ประกอบด้วยแร่แมกนีเชียมออกไซด์ (MgO) และแคลเซียมออกไซด์ (CaO) สูง โดยที่มีแร่ซิลิก้าไดออกไซด์ (SiO2) และโซเดียมออกไซด์ (Na2O) ต่ำ รวมถึงโปแตสเซียมออกไซด์ (K2O) ด้วยเมื่อเทียบกับหินอัคนีอื่นๆทั่วไปซึ่งสอดคล้องกับการจำแนกหินแบบ TAS
โดยทั่วไปหินบะซอลต์จะมีองค์ประกอบของซิลิก้าออกไซด์ (SiO2) ร้อยละ 45 - 55 อัลคาไลทั้งหมดร้อยละ 2 - 6 ไททาเนียมออกไซด์ (TiO2) ร้อยละ 0.5 - 2.0 เหล็กออกไซด์ (FeO) ร้อยละ 5 - 14 และอะลูมินา (Al2O3)
ร้อยละ 14 หรือมากกว่า โดยปรกติแล้วจะมีแคลเซียมออกไซด์ (CaO) เกือบร้อยละ
10 และโดยทั่วไปจะมีแมกนีเซียมออกไซด์ (MgO) อยู่ระหว่างร้อยละ 5 - 12
โดยน้ำหนัก
หินบะซอลต์อะลูมินาสูงจะมีอะลูมิเนียมอยู่ถึงร้อยละ 17 - 19 โดยน้ำหนัก (Al2O3) โบนิไนต์มีแมกนีเซียมออกไซด์สูงถึงร้อยละ 15 หินสีเข้มซึ่งมีเฟลด์สปาร์สูงตั้งแต่เอคินถึงหินบะซอลต์อัลคาไลอาจมี Na2O รวมกับ K2O ได้ถึงร้อยละ 12 หรือมากกว่า
หินบะซอลต์ MORB
และหินอัคนีแทรกซอนที่มีองค์ประกอบใกล้เคียงกันอย่างหินแกบโบรเป็นลักษณะของ
หินอัคนีที่เกิดขึ้นที่เทือกเขากลางสมุทร หินบะซอลต์ MORB
นี้เป็นโธลีไอต์ที่มีอัลคาไลและธาตุส่วนน้อยอินคอมแพตทิเบิลในปริมาณต่ำ
และมีรูปแบบของธาตุหายากเฉลี่ยแล้วมีค่าเหมือนกันกับหินในชั้นเนื้อโลกหรือ
คอนไดรต์ ในทางตรงกันข้าม
หินบะซอลต์อัลคาไลจะมีธาตุหายากและธาตุอินคอมแพตทิเบิลอื่นๆในปริมาณที่สูงก
ว่า เพราะว่าหินบะซอลต์ MORB
ถือเป็นกุญแจดอกสำคัญในการเข้าใจเกี่ยวกับขบวนการแปรสัณฐาน
จึงมีการศึกษาองค์ประกอบของหินชนิดนี้กันอย่างกว้างขวาง
แม้ว่าองค์ประกอบของ MORB
จะมีความแตกต่างชัดเจนกับค่าเฉลี่ยของหินบะซอลต์ที่ปะทุในสภาพแวดล้อมอื่นๆ
แต่มันก็มีองค์ประกอบที่ไม่คงที่สม่ำเสมอ
ตัวอย่างเช่นมีองค์ประกอบที่เปลี่ยนแปลงไปตามตำแหน่งของเทือกเขากลางสมุทรใน
มหาสมุทรแอตแลนติกและการมีองค์ประกอบในช่วงที่แตกต่างกันในแอ่งมหาสมุทรที่
แตกต่างกัน (Hofmann, 2003)
สัดส่วนไอโซโทปของธาตุทางเคมีอย่างเช่นสตรอนเตียม นีโอดายเนียม ตะกั่ว
ฮาฟเนียม
และออสเมี่ยมในหินบะซอลต์มีการศึกษากันมากเกี่ยวกับการเรียนรู้เข้าใจใน
วิวัฒนาการของชั้นเนื้อโลก สัดส่วนไอโซโทปของแก๊สมีสกุลอย่างเช่น 3He/4He
ก็ถือว่ามีคุณค่ายิ่ง เช่น สัดส่วนในหินบะซอลต์จาก 6 ถึง 10
ของโธลีไอต์ที่เทือกเขากลางสมุทร (เป็นค่าเฉลี่ยของชั้นบรรยากาศ) แต่ค่าจาก
15 ถึง 24
หรือมากกว่าของหินบะซอลต์ที่เทือกเขากลางสมุทรถูกเข้าใจว่าอาจมาจากชั้น
เนื้อโลก
ลักษณะสัณฐานและเนื้อหิน
รูปร่าง โครงสร้าง
และเนื้อหินของหินบะซอลต์ทำให้เราทราบได้ว่ามันปะทุขึ้นมาอย่างไรและที่ไหน
รู้ได้ว่ามันเกิดขึ้นในทะเล ปะทุขึ้นมาเป็นเถ้าภูเขาไฟ
หรือไหลบ่าแบบพาโฮโฮซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของการเกิดหินบะซอลต์ในฮาวาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น